- เลือกกินซุปเปอร์ฟู้ด แม้ว่าวิธีนี้คุณจะสามารถกินอะไรก็ได้ กินเท่าไหร่ก็ได้จนกว่าจะครบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปกินพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ หรือดื่มเบียร์ทุกวัน ทางที่ดีควรเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย กินให้ได้พลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน ส่วนอาหารให้เน้นเป็นเมนูแคลต่ำ โปรตีนสูง เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชซุปเปอร์ฟู้ดต่างๆ เช่น ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ ควินัว เมล็ดเชีย เมล็ดแฟล็กซ์ ฯลฯ งดของหวานจัด เค็มจัด งดแอลกอฮอล์
- กินให้หลากหลาย เนื่องจากคุณกินได้แค่มื้อเดียว ดังนั้นควรจัดอาหารให้สมดุลระหว่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต (เน้นแบบเชิงซ้อน) และไขมัน พยายามสรรหาเมนูอาหารให้หลากหลายเข้าไว้ เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์
- เลือกกินไขมันดี เนื่องจากคุณเลือกกินอะไรก็ได้ รวมถึงอาหารที่มีไขมัน แต่อย่างน้อยก็ควรเลือกกินไขมันชนิดดี (HDL) ให้มากๆ เข้าไว้ เพื่อใช้เป็นพลังงานระหว่างวัน แถมยังดีต่อสุขภาพ เพราะช่วยขจัดไขมันเลว (LDL) อกจากร่างกายได้ด้วย
- งดขนมขบเคี้ยว อีกหนึ่งอย่างที่ควรระวัง หากคุณตั้งใจจะลดน้ำหนักแบบ One Meal A Day นั่นคือเรื่อง “ขนมขบเคี้ยว” ระหว่างวัน ต้องงดให้ได้ เพราะมันมีทั้งไขมันสูง โซเดียมสูง กินเข้าไปมันอิ่มก็จริง แต่มันไม่มีคุณค่าสารอาหาร อย่าลืมว่า…คุณกินได้แค่มื้อเดียวต่อวัน แล้วจะเสียพื้นที่ในกระเพาะอาหารให้ขนมพวกนี้จริงเหรอ? คิดผิดคิดใหม่นะจ๊ะ
- ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ โปรแกรมลดน้ำหนักแบบนี้ คุณยังคงสามารถออกกำลังกายได้ เพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เนื่องจากการกินแค่มื้อเดียว จะทำให้คุณอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ แนะนำให้วิ่งบนลู่, วิ่งจ๊อกกิ้งในสวน, เต้นแอโรบิกเบาๆ แค่ 20-30 นาทีก็พอ
แต่มีนักโภชนาการและเหล่าเทรนเนอร์ออกมาเตือนเหมือนกันว่า โปรแกรมลดน้ำหนักแบบ One Meal A Day ก็มีข้อเสียเหมือนกัน และไม่ได้เหมาะกับร่างกายของทุกคน ที่สำคัญมันเสี่ยงมากที่คุณจะเลือกกินของอร่อยแต่ไม่มีประโยชน์ มากกว่าอาหารที่มีประโยชน์แต่ไม่อร่อย เพราะการกินได้แค่มื้อเดียว เราก็มักจะตามใจปาก และนั่นจะทำให้คุณลดน้ำหนักไม่สำเร็จ